การเป็นคนสบาย ๆ แม้กระทั่งเวลาการนัดหมายเรื่องงาน 

คนไทยเป็นคนสบาย ๆ ง่าย ๆ แต่เมื่อไรที่เป็นเรื่องการงาน การนัดหมายส่งงาน หรือจะนัดพบทั่วไป ก็ไม่ควรทำตัวสบาย ไปสาย ไปเลท  เพราะการไปสายกว่าที่เวลาที่นัดไว้ ไม่ใช่นิสัยสบาย ๆ ที่น่ารัก แต่เป็นการเสียมารยาท และไม่ให้เกียรติต่อผู้อื่น และยังไม่ให้เกียรติตนเองอีกด้วย เพราะคุณกำลังรบกวนเวลาของคนอื่นอยู่ ต่อให้เป็นเพื่อนร่วมงาน หรือคนสนิท แม้จะยิ้มให้กัน ปากบอกไม่เป็นไร แต่ในใจน่ะเสียความรู้สึก ยิ่งถ้าเป็นเรื่องงาน รับรองว่า คุณจะเสียงานและเสียชื่อเสียง เพราะอีกฝ่ายต้องนำเรื่องของคุณไปเผากระจายแน่นอน 

ตกปากรับคำแต่ทำไม่ได้ 

คนไทยมีนิสัยรับปากไว้ก่อน โดยเฉพาะวัฒนธรรมอ่อนน้อมรับคำผู้สูงวัย หรือผู้สูงด้วยคุณวุฒิ หน้าที่การงาน มอบหมายงาน หรือบอกให้ทำอะไร ก็รับปาก เอาหน้าไว้ก่อน อาจด้วยขัดไม่ได้ หรือเพราะการปลูกฝังห้ามปฏิเสธผู้ใหญ่ก็ตาม รับปากแต่สุดท้ายทำไม่ได้ งานล่ม งานเสีย ส่งผลเป็นกระบวน ดังนั้น หากได้รับมอบหมายงาน หรือถูกใช้งาน ไม่เข้าใจตรงไหนถามทันที หรือถ้าคิดว่าทำไม่ได้ เกินความสามารถตนเอง ให้รู้จักปฏิเสธไปเลย พร้อมกับเหตุผลอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เขาได้นำงานไปมอบหมายให้คนอื่นที่สามารถทำได้ นอกจากจะไม่ทำให้งานเสีย ยังไม่เป็นการเพิ่มภาระให้ตนเองเกินความจำเป็นอีกด้วย

นินทาเพื่อนร่วมงาน เก่งลับหลัง

ต่อให้คันปาก อยากเม้าท์มอยแค่ไหน ก็ควรหักห้ามปากให้ได้ เพราะในสถานที่ทำงาน ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อให้ผู้คนมาทำงาน ไม่ได้เป็นสถานที่เพื่อการตั้งวงนินทา นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์ใด ๆ ต่อหน้าที่การงาน อาจยังสร้างศัตรูเพิ่มโดยไม่จำเป็น แถมยังทำให้บรรยากาศที่ทำงานไม่น่าทำงาน และต่อให้ต่างชาติ ต่างภาษา แต่น้ำเสียงและภาษาทางกายเป็นภาษาสากลที่บ่งบอกสถานการณ์ได้ หากคิดว่าไอเดียตนเองดี หรือไม่เห็นด้วยกับใคร ให้แสดงออกต่อหน้า อย่าเจ๋งแบบลับหลัง ทำตัวเหมือนหมาลอบกัด เพราะมันคือนิสัยของคนที่เก่งไม่จริง 

อยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่น 

เวลางานก็คือเวลางาน จึงควรโฟกัสในเนื้องานของตน เพราะเขาจ่ายเงินเพื่อจ้างให้คุณมาทำงาน ไม่ใช่จ้างให้คุณมาคอยสอดส่องเรื่องคนอื่น เว้นเสียว่า เนื้อหางานของคุณคือการสอดส่องเรื่องคนอื่น และเขาจ้างคุณมาเพื่อสิ่งนั้น แต่ถ้าหน้าที่ของคุณไม่ใช่ ก็ควรมุ่งตรงต่อเป้าหมายงานของคุณเอง อะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัว ค่อยว่ากันนอกเวลางาน 

หวงความรู้ กั๊กสูตรงาน 

หากงานแบบลักษณะของการทำแบบ teamwork แสดงว่าการทำงานต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนในทีม ซึ่งอาจมีความรู้ ความสามารถ และสกิลที่แตกต่างกันไป การหวงความรู้ หวงสูตรเก็บไว้คนเดียว นอกจากอาจทำให้ปลายทางของเป้าหมายทีมไปถึงได้ช้า อาจทำให้คุณเหนื่อยอยู่คนเดียว เพราะคุณรู้อยู่คนเดียว ต้องแก้ไข ต้องทำอยู่คนเดียว แต่ถ้ากระจายความรู้ให้กับคนในทีม จะทำให้ทุกคนได้ช่วยกันทำ และสามารถผลักดันทีมให้สู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วขึ้น และคุณเองก็ไม่ต้องเป็นเดอะแบกของทีม 

เต็มที่กับวันหยุด แต่เฉื่อยชาในวันทำงาน 

เมื่อถึงเวลาก็เข้างานสาย เลทนิดบ้าง มากบ้าง แล้วแต่วัน หรือจะคิดว่าตนเก่ง ตนแน่ ตนสนิทกับเจ้านาย จะสายยังไงก็ได้ ชะล่าใจว่าเดี๋ยวก็เลิกงาน เดี๋ยวก็เงินเดือนออก สักแต่รอเวลาให้หมดวัน แต่เลิกงานเมื่อไร วันหยุดมาถึง เต็มที่กระจาย ซึ่งมันเป็นสิทธิของทุกคนที่จะร่าเริงแค่ไหนก็ได้เมื่อนอกเวลางาน แต่ถ้าออกเที่ยวเต็มสูบ ดื่มเหล้าเต็มที่ แล้วแฮงค์จนมาทำงานสาย คุณกำลังเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานอย่างน่าเกลียดเลยล่ะ รู้ตัวหรือเปล่า แต่ถ้าคุณใช้ชีวิตเต็มที่แบบ work hard play hard ไม่ว่าจะเล่นมากแค่ไหน แต่ไม่เคยนำมากระทบการทำงาน อันนี้ไม่มีใครว่าคุณได้แน่นอน 

อย่าทะนงว่าตนเองดีกว่าคนอื่น คิดว่าตัวเองเก่งกว่าใคร เจ้านายรัก หรือสนิทกับเจ้านาย ตราบใดที่เรายังต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นหน่วยสังคมเล็ก ๆ หรือสังคมขนาดใหญ่ เราก็เป็นเพียงหน่วยทศนิยมจุดหนึ่งภายใต้โลกกว้างใบนี้ ทุกคนมีสิทธิในความเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่คุณค่าความเป็นมนุษย์มีไม่เท่ากัน คุณต้องสร้างด้วยตัวเอง และอยู่ที่ใครจะเห็นคุณค่าในตัวคุณ หากคุณคิดว่าคุณพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ไม่มีใครเห็นค่า บางทีอาจเป็นเพราะคุณอยู่ในที่ไม่เหมาะสมกับคุณ ต้นไม้พันธุ์ดีแค่ไหน แต่ถ้าอยู่ผิดที่ ผิดดิน ก็ไม่มีวันเติบโต อย่างมากก็ได้แต่แคระแกร็น บิด ๆ เบี้ยว ๆ ตามสภาพสิ่งแวดล้อม แต่ไม่มีวันกลายเป็นไม้ใหญ่ที่สวยงาม