10 วิธีรักษาอาการไอให้หายไวขึ้น

เบื่อไหม..กับอาการไอและคันคอที่มาไม่รู้จักเวล่ำเวลา ยิ่งตอนอยู่ในที่สาธารณะ สถานที่ปิด แถมยังเป็นช่วงโรคระบาด จะไอก็เกรงใจคนรอบข้าง แถมยังเป็นที่รังเกียจ เพราะนึกว่าเป็นพาหะของโรคร้ายสู่ชุมชน
ปัจจัยที่จะทำให้รู้สึกคันคอและไอนั้นมีหลายสาเหตุด้วยกัน แต่วันนี้เราจะมาโฟกัสกับวิธีบรรเทาอาการไอให้หายเร็วที่สุด ต้องทำอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1. ดื่มน้ำให้มากขึ้น
วิธีแก้ไอง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ในข้อแรก เพราะการดื่มน้ำให้มากขึ้นในแต่ละวัน จะช่วยให้ลำคอมึความชุ่มชื้น และน้ำยังไปช่วยละลายเสมหะในลำคอให้ลดลงได้

2. ดื่มน้ำอุ่น
ต่อจากข้อแรกกันด้วย น้ำอุ่น เพราะเมื่อเลือกจะดื่มน้ำให้มากขึ้น ควรเลือกดื่มน้ำอุ่นแทนการดื่มน้ำเย็น เนื่องจากน้ำอุ่นจะช่วยละลายเสมหะได้ดีกว่า หรือจะเพิ่มสกิลด้วยการดื่มชงน้ำผึ้งผสมมะนาวในน้ำอุ่น ๆ แล้วดื่ม จะยิ่งช่วยให้ละลายเสมหะและรักษาความชุ่มชื้นให้กับลำคอ แถมน้ำผึ้งยังมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้ออีกด้วย

3. อมยาแก้ไอ
สำหรับใครที่มีอาการไอจนตัวงอ ไอไม่หยุดไม่หย่อน ไอจนคนรอบข้างรำคาญ ให้รีบหายาอมแก้ไอมาอมโดยด่วน เพราะอาการไอจะไม่หายไปง่าย ๆ แน่นอน และในตัวยาอมแก้ไอจะมีส่วนผสมที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น กำจัดเสมหะ และสามารถฆ่าเชื้อในลำคอ ส่วนจะเป็นยาแก้ไอยี่ห้อไหนดีนั้น ขึ้นอยุู่กับความพอใจ เลือกได้ตามสบายเลยค่ะ

4. อาบน้ำอุ่น
การอาบน้ำอุ่นจะช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้กับร่างกาย ดีต่อผู้ที่เป็นหวัด รวมไปถึงผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ดื่มน้ำอุ่นและอาบน้ำอุ่น จะช่วยเสริมพลัง x2 ให้หายไอเร็วขึ้น

5. ใช้เครื่องทำความชื้น
สำหรับใครที่เปิดเครื่องปรับอากาศนอน ควรหาเครื่องทำความชื้นมาไว้ในบ้านด้วย เพราะเครื่องปรับอากาศทำให้อากาศแห้ง โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่มีอากาศเย็นกว่าช่วงกลางวัน อากาศแห้ง ๆ เย็น ๆ ยิ่งส่งผลให้มีอาการไอมากขึ้น และอาจมีน้ำมูกร่วมด้วย ดังนั้นบ้านไหนที่มีผู้ป่วยภูมิแพ้ และเปิดแอร์นอนเป็นประจำ ควรหาเครื่องทำความชื้นมาใช้ด้วย เพื่อช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองในลำคอ โดยสามารถเลือกได้ตามความชอบ ทั้งแบบเครื่องทำความชื้นมีกลิ่นหอม ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย หรือจะเลือกเครื่องทำความชื้นไร้กลิ่นก็ได้เช่นกัน

6. งดใช้น้ำหอมและสเปรย์ต่าง ๆ
ส่วนผสมในน้ำหอมและสเปรย์ต่าง ๆ มักจะไปกระตุ้นประสาทรับความรู้สึกในโพรงจมูก ทำให้รู้สึกฉุนและจาม อันเนื่องมาจากการระคายเคือง และอาจทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดเสมหะเพิ่มขึ้นได้

7. งดสูบบุหรี่
สำหรับผู้สูบบุหรี่เป็นประจำ ควรงดสูบบุหรี่ในช่วงที่มีอาการไอไปก่อน เพราะสารในบุหรี่ไปกระตุ้นให้เกิดความระคายเคือง และเพิ่มเสมหะมากขึ้น ถ้าให้ดี เลิกสูบบุหรี่ถาวรได้ยิ่งดี เพราะการบุหรี่เป็นสาเหตุของโรคถุงลมโป่งพอง และโรคอันตรายอื่น ๆ และอาการไอจะเป็นของคู่กันกับผู้สูบบุหรี่ ไม่มีทางหาย หากอยากหายไอจริง ๆ ควรเลิกสูบบุหรี่ไปเลยจะดีที่สุด

8. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
การที่ร่างกายไม่ได้พักผ่อนเพียงพอ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ร่างกายอ่อนแอลงไปด้วย อาการไอจึงหายช้าและอาจเรื้อรังได้ หากยังคงพักผ่อนน้อย เพราะร่างกายไม่มีโอกาสได้ซ่อนแซมตัวเอง หากช่วงไหนที่ป่วย ไม่สบาย ไอบ่อย ควรรีบเข้านอนและพักผ่อนให้เต็มที่ เพื่อให้ร่างกายได้พักอย่างแท้จริง และภูมิคุ้มกันแข็งแรง ร่างกายแข็งแรง อาการไอจะหายได้เร็วขึ้น

9. หลีกเลี่ยงฝุ่นและควันต่าง ๆ
ฝุ่นและควันต่าง ๆ ทั้งจากท่อไอเสียของยานยนต์ ควันจากการทำอาหาร หรือฝุ่นพิษในอากาศ ก่อให้เกิดการระคายเคืองในลำคอ โพรงจมูก และทำให้ไอจามได้ ควรใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากกันฝุ่นเมื่อต้องออกไปอยู่ในที่โล่งแจ้ง หรือพื้นที่มีมลพิษปกคลุม เพื่อป้องกันฝุ่นพิษในอากาศ อันเป็นสาเหตุของอาการไอ และโรคภัยร้ายแรงอื่น ๆ

10 .พบแพทย์
หากทำทุกวิธีและทุกข้อแล้วแต่อาการไอยังคงไม่หาย ควรไปพบแพทย์เพื่อให้วินิจฉัยและทำการรักษาได้อย่างเหมาะสม เพราะอาการไอสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ และเป็นอาการของโรคต่าง ๆ เช่นกัน ดังนั้น การไปหาหมอเพื่อเข้าตรวจหาสาเหตุรอยโรคที่แท้จริง และจะได้รักษาได้อย่างถูกต้องจึงดีที่สุด